การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรม ผ่าตัดโครงหน้าและขากรรไกร

ข้อแนะนำการปฏิบัติหลังการทำศัลยกรรมผ่าตัดกระดูกโครงหน้าและขากรรไกร


 

1. ให้นอนโดยยกหัวสูงกว่าหัวใจประมาณ 30 องศา

สามารถใช้หมอน 2-3 ใบหนุนศรีษะเพื่อไม่ให้เลือดคั่ง และช่วยให้อาการบวมของใบหน้าลดลงเร็วขึ้น (ทำติดต่อกัน 3-4วันหลังการผ่าตัด)

 

2. สำหรับคนไข้ที่มีเทปติดที่คาง

สามารถเอาออกเองได้โดยใช้น้ำแตะๆที่เทป แล้วค่อยๆแกะออก สามารถเอาออกได้ตั้งแต่ ช่วงเช้าของวันที่ 3 หลังการผ่าตัด

 

3. ประคบเย็นในช่วงเวลา 3-4 วันแรกหลังการผ่าตัด

การประคบเย็นหลังการผ่าตัดจะช่วยไม่ให้มีอาการบวมเพิ่มขึ้น และช่วยให้เลือดจากการผ่าตัดภายในปากหยุดไหลเร็วขึ้นด้วย หลังจากการประคบเย็นแล้ว (นับจากวันที่ 5 หลังการผ่าตัด) ให้ประคบอุ่น เพื่อช่วยลดอาการบวม ในการประคบน้ำอุ่น ห้ามอุ่นแพ็คประคบด้วยการเข้าไมโครเวฟ หรือต้มแพ็คประคบในน้ำเดือด แต่ให้แช่แพ็คประคบในน้ำอุ่น แล้วแตะดูว่าอุ่นพอสมควร จึงนำมาใช้ประคบ ควรระวังอย่าให้แพ็คประคบร้อนเกินไป เพราะหลังจากการผ่าตัด ความรู้สึกที่ผิวหน้ายังชาอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการลวกและอาการบาดเจ็บได้ หลังการผ่าตตัดโครงหน้าอาจมีอาการบวมของใบหน้าทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากันถือเป็นอาการปกติ จึงไม่ต้องกังวล

 

4. การรับประทานอาหาร

  • วันแรกหลังการผ่าตัด ให้รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก หรือขนมปังนิ่มๆ (เช่น ขนมปังคาสเทลล่า), เต้าหู้,ไข่ต้ม , ไข่ตุ๋น เป็นต้น
  • งดอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย : อาหารที่มีไฟเบอร์มาก เช่น โจ๊กฟักทอง โจ๊กเมล็กสน โจ๊กงานขาวน้ำนม โยเกิร์ต
  • อาหารที่ห้ามรับประทาน ประมาณ 2 อาทิตย์หลังการผ่าตัด : อาหารมันๆ รสจัด รสเผ็ด เค็ม
  • อาหารที่ห้ามรับประทาน ประมาณ 2 เดือนหลังการผ่าตัด (ต้องระวังเป็นพิเศษในคนไข้ที่ทำศัลยกรรมโหนกแก้ม) : อาหารแข็ง เหนียว เช่น ขนมต๊อก ข้าวเหนียว ลูกอม ปลาหมึกแห้ง เนื้อตากแห้ง กิมจิ แอลมอนด์ เป็นต้น กรุณาดื่มน้ำอุ่น วันละ 1 ลิตรขึ้นไป : จะช่วยให้อาการบวมลดลง และเป็นการทำให้ภายในช่องปากสะอาด รวมถึงช่วยในการละลายเสมหะออกไปด้วย

 

5. หลังการผ่าตัดอาจมีลักษณะของเลือดที่ยังติดค้างอยู่ในลำคอ หรือ จมูก

ให้บ้วนทิ้งเบาๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด หากผ่าน 2 สัปดาห์ไปแล้ว ยังรู้สึกว่ามีเลือดออกมามาก หรือมีตกค้างในลำคอมากเกินไป ให้มาติดต่อโรงพยาบาล และ ควรหลีกเลี่ยงการใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าในระยะนี้ เช่น ไม่ขากเสมหะแรงๆ แต่ให้กลืน หรือคายออกมาเบาๆ ในระยะประมาณ 1 เดือนหลังการผ่าตัด ให้หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก แต่ให้ใช้วิธีการเช็ดน้ำมูกแทน

 

6. กรุณารับประทานยาตามเวลาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

หลังการรับประทานยาแล้ว หากมีอาการแพ้ หรืออาการผิดปกติใดๆ เช่น ผื่นลมพิษ ให้มาติดต่อโรงพยาบาล/ ยา Tarasyn (ทาราซิน) ที่จัดให้เป็นยาแก้ปวด หากมีอาการปวดในตอนเช้า ให้ทานยา 1 เม็ดเท่านั้น

 

7. วิธีบ้วนปากหลังการผ่าตัดเพื่อรักษาความสะอาดภายในช่องปาก

( หลังการผ่าตัดแล้วให้บ้วนปากทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ไปจนถึงวันที่นัดให้มาตัดไหม )

 

วิธีทำน้ำยาบ้วน : น้ำเกลือ 1 ลิตร ผสมกับน้ำยา Hexamedin 20 cc

  • หลังตื่นนอน ก่อนรับประทานอาหาร ให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ ผสมน้ำยา Hexamedin แล้วบ้วน 10 ครั้งขึ้นไป
  • หลังจากรับประทานอาหาร ให้บ้วนปากต่อด้วยน้ำเกลือผสม Hexamedin บ้วน 10 ครั้งขึ้นไป จนน้ำที่บ้วนออกมาเป็นสีใสๆ (สามาถรับประทานอาหารหรือน้ำหลังบ้วนปากไปแล้วอย่างน้อย 10 นาที)
  • กรุณาบ้วนปากทุกๆ 2 ชั่วโมง แม้ว่าจะไม่มีการรับประทานอาหารใดๆก็ตาม (แนะนำให้จับเวลาเป็นเลขคู่หรือเลขคี่ เช่น 8 โมง 10 โมง เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำเวลาที่ต้องบ้วนปาก)
  • ก่อนเข้านอน กรุณาบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ ผสมน้ำยา Hexamedin และบ้วน 10 ครั้งขึ้นไป

 

8. การใส่ที่รัดหน้า

  • 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด กรุณาใส่ที่รัดหน้าทุกวัน เป็นประจำ และทุกๆ 1 ชั่วโมง ให้ถอดออกพักได้ 20-30 นาที
  • ขณะบ้วนปาก / รับประทานอาหาร/ นอนหลับ ให้ถอดที่รัดใบหน้าออก หากรู้สึกใบหน้าบวมมากขึ้น ให้เอาผ้าก็อตวางรองระหว่างที่รัดใบหน้า และบริเวณที่มีอาการบวมให้รีบติดต่อโรงพยาบาล

 

9. หลังการติดพลาสเตอร์กันน้ำส่วนหลังหูกับข้างโหนกแก้มแล้ว

สามารถอาบน้ำสระผมได้ ห้ามก้มหน้า แต่ใช้วิธีการเอนหลังนอนสระผม หากพลาสเตอร์ที่โรงพยาบาลติดให้หลุดหลังจากการอาบน้ำ ควรระวังมิให้แผลโดนน้ำโดยเด็ดขาดและห้ามใช้มือสัมผัสแผลเพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบและการติดเชื้อที่แผล

 

10. การออกกำลังกายเบาๆในช่วงกลางวัน

เช่น การเดินออกกำลังกาย หรือการเดินเล่น จะช่วยให้อาการบวมลดลงได้ / ในช่วงกลางวันแผลจะมีอาการบวมมากกว่าช่วงกลางคืน

 

  • ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เช่น ว่ายน้ำ การเข้าฟิตเนส การปีนภูเขา เป็นต้น
  • การทำซาวน่าหรือสปาที่ต้องอยู่ในห้องที่มีความร้อน สามารถทำได้หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 4 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ หรือ IPL ประมาณ 1 เดือนหลังการผ่าตัด

 

11. หลังการผ่าตัด กรณีทำโหนกแก้ม ลักษณะสภาพร่างกายคนไข้ที่แตกต่างกัน

อาจจะทำให้เกิดรอยช้ำ ที่ต่างกันออกไป และจะค่อยๆหายไปเองในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หลังการผ่าตัดควรระวังไม่ให้ผิว บริเวณที่ช้ำโดนแดด เพราะอาจทำให้สีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนไปได้ จึงแนะนำให้ทาครีมกันแดดหรือใส่หมวดจนกว่ารอยช้ำจะหายไป

ผลลัพธ์ที่ได้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละบุคคล